ช่วงนี้มีเพื่อนอยากฝึกทำขนมอบและอยากซื้อเตาอบใหม่ มาถามหนึ่งว่า เลือกซื้อเตาอบแบบไหนดี เลยอยากเขียนถึงการเลือกซื้อเตาอบ (จากประสบการณ์) เผื่อมีประโชน์สำหรับมือใหม่หัดอบ ^_^
ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วตอนเริ่มหัดทำขนมอบ หนึ่งพุ่งไปที่วีรสุ ถอยเตาอบด้วยการดูโหวงเฮ้งเตาอบว่าหน้าดีไหมและฟังเซลล์บรรยาย จ่ายเงิน ขนเตาอบกลับบ้าน จบ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีและไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ เตาอบเป็นปัจจัยสำคัญมากๆของการทำขนมอบ ควรศึกษานิดนึงก่อนซื้อเพื่อให้ได้เตาอบที่ตอบโจทย์และความต้องการมากที่สุด เวลาไปหาซื้อเตาอบจะได่ไม่ยืนตะลึง งง งวย ว่าจะซื้ออะไรดีนะและจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนอบอบกลางคันเพราะซื้อเตาที่คิดว่าไม่ใช่มา
สิ่งที่หนึ่งจะพูดถึงไม่ใช่การรีวิวยี่ห้อเตาอบว่ายี่ห้อไหนเป็นอย่างไร แต่หนึ่งจะพูดถึงชนิดเตาอบที่ใช้ในครัวเรือน เน้นแบบ homemade ให้รู้ภาพรวมแบบกว้างๆ และพูดถึงฟังก์ชันพื้นฐานของเตาอบไฟฟ้าที่ควรู้ก่อนซื้อ หนึ่งคิดว่ารู้จักสองอย่างนี้ก็สามารถเลือกซื้อเตาอบได้โดยไม่งง(เท่าไหร่) ส่วนจะซื้อยี่ห้ออะไร ซื้อรุ่นไหนนั้นขึ้นอยู่กับความพอใจและงบประมาณแล้ว ^_^
ก่อนอื่นมารู้จักชนิดของเตาอบที่นิยมใช้ในครัวเรือนกันนะคะ
1.เตาอบแก้ส เป็นเตาอบที่มีหัวเตาอยู่ด้านบน ด้านล่างเป็นเตาอบและใช้แก้ส เป็นเตาอบที่หนึ่งคุ้นตา เพราะเป็นเตาอบที่คุณแม่ใช้อบขนมสมัยยังเป็นเด็ก
ที่มาของภาพ
ข้อดี
– ประหยัดไฟ (เพราะใช้แก้ส)
– เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำทั้งอาหารและเบเกอรี่
ข้อเสีย
– ควบคุณอุณหภูมิในการอบยาก แหล่งความร้อนอาจจะมาจากแหล่งเดียว สองหรือสามแหล่ง เช่น จากผนัง ด้านบน หรือด้านล่างเตาอบ ถ้าไม่มีพัดลมการกระจายความร้อนจะไม่สม่ำเสมอ (แต่บางยีห้อมีพัดลมจะช่วงกระจายความร้อนได้ดีขึ้น)
– ขนาดใหญ่ ต้องการพื้นที่ในการติดตั้ง เพราะนอกจากตัวเตาแล้วยังต้องเผื่อถังแก้สด้วย ถ้ามีพื้นที่จำกัดหรืออยู่ในคอนโดมิเนียมก็ตัดออกได้เลยค่ะ
2.เตาอบไมโครเวฟที่มีเตาอบในตัว (microwave cum convection oven) เป็นนวัตกรรมใหม่ที่รวมเอาทั้งไมโครเวฟและเตาอบแบบพัดลมไว้เครื่องเดียว อเมซซิงไหมคะ
ถามว่าทำขนมได้จริงหรือไม่ ตามไปดูคุณ ochikeron ได้ที่นี่ เธอทำอาหารและขนมอบจากเตาชนิดนี้ ดูน่าสนุกและง่ายดาย หนึ่งจะไม่ลงรายละเอียดเรื่องฟังก์ชัน เพราะไม่เคยใช้งานจริงจัง
ข้อดี แน่นอนที่สุด มี 2 อย่างในเครื่องเดียว ข้อดีคือประหยัดพื้นที่ เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่จำกัด
ข้อเสีย หนึ่งเคยทดลองใช้แค่ 1 ครั้งเลยไม่มีความเห็นมากในส่วนนี้แต่ที่เห็นแน่ๆคือ ราคาที่สูง
**เตาอบชนิดนี้ แม้จะอบได้เหมือนเตาอบไฟฟ้า แต่รายละเอียกการใช้งานอาจจะต่างออกไป ถ้าสนใจลองศึกษาอย่างละเอียดหรือไปชมของจริงได้ที่โชว์รูมมีหลายยี่ห้อเหมือนกันที่ทำออกมาขาย หรือจะอ่านข้อมูล ตามลิงค์นี้เป็นไอเดีย
3.เตาอบไฟฟ้า เป็นเตาอบที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันมากเพราะเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในครัวเรือนเพราะใช้งานง่าย ดูแลง่าย มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อขายตามห้างสรรพสินค้าและร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า Homepro บุญถาวร บลา บลา บลา หนึ่งขอแบ่งเป็น 2 ชนิด เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจนะคะ (ขอตัดเตาติ๊งออกนะคะ เพราะเหมาะจะอุ่นขนมมากกว่าอบขนมจริงจัง)
3.1 เตาไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ สามารถยกไปมา เคลื่อนย้ายได้ ขนาดมีหลากหลายความจุใหญ่ได้ถึง 45 ลิตร ยี่ห้อที่รู้จักกัทั่วไปเช่น Otto, Severin, House worth และอื่นๆมากมาย
ข้อดี ราคาถูก ราคาสองพันปลายๆก็ซื้อสามารถได้แล้ว เหมาะสำหรับมือใหม่หัดอบที่มีงบประมาณจำกัด สามารถเคลื่อนย้ายเปลี่ยนตำแหน่งได้
ข้อเสีย ความร้อนไม่สม่ำเสมอแม้จะมีระบบพัดลมช่วยกระจายความร้อน กระจกกันความร้อนได้น้อย ระหว่างที่เตาทำงานอย่าเอามือไปแตะกระจกเชียว ร้อนจี๋เลย อบขนม อบอาหารทีร้อนไปทั้งห้องเลย หนึ่งคิดว่าสาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะโครงสร้างและระบบการทำงานที่มีข้อจำกัด
3.2เตาไฟฟ้าแบบฝัง (Built-in oven) ถ้าไปเดินตามโชว์รูมห้องครัวสวยๆ เราจะเห็นเตาอบแบบ built in โชว์ตัวอย่างสวยงาม เห็นแล้วเกิดกิเลสเป็นยิ่งนัก มีหลายยี่ห้อให้เลือก ที่เราคุ้นหูคุ้นตากันบ้าง คือ BOSCH, Smeg, Technogas,Electrolux เตาอบพวกนี้ราคาจะแตกต่างกันได้มาก ขึ้นกับยี่ห้อ วัสดุและดีไซน์ บางยี่ห้อ บางรุ่นมีถึง 60 ฟังก์ชัน อ่านกันจนมึนกันไปข้างหนึ่ง
ข้อดี เตาอบแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยในการจัดวาง สะดวกและประหยัดพื้นที่ แผงด้านข้างจะดูเปลือยเพราะจะไปอยู่ในล็อคที่เราบิลด์รออยู่แล้ว เตาอบพวกนี้จะถูกออกแบบให้มีการกันความร้อนไม่ให้กระจายไปตู้ข้างๆหรือด้านนอก ในขณะเดียวกันต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดี เตาอบฝังจะทำอุณหภูมิได้สูงกว่าเสถียรกว่าพวกเตาตั้งโต๊ะนอกจากนี้ยังแข็งแรงกว่าด้วย เวลาอบห้องไม่ร้อนเท่าใช้เตาไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะ จากคุณสมบัติแล้วดูสมบูรณ์แบบนะคะ บางรุ่นมีฟังก์ชันช่วยให้เราอบขนมต่างๆได้หลากหลายแค่กดปุ่ม
ข้อเสีย จริงอาจจะไม่เชิงเป็นข้อเสียซะทีเดียวนะคะ เตาอบแบบฝังมักจะมีขนาดใหญ่ ความจุตั้งแต่ 5x ลิตรถึง 7x ลิตรและมาพร้อมกับการวางแผนและการออกแบบเพราะเค้าถูกออกแบบมาให้ built in ถามว่าซื้อมาตั้งโดยไม่ใส่ตู้ได้ไหม ได้ค่ะ เตาอบทำงานได้แต่มันไม่สวยและดูเทอะทะ อีกหนึ่งขอเสียสำหรับคนงบน้อยคือ ราคาสูงนั่นเอง ราคาหลากหลายตั้งแต่หลักใกล้หมื่นไปจนถึงแสนเลยทีเดียว
2. ขนาดของเตาและความจุ เลือกขนาดให้เหมาะสมกับความต้องการ จะทำกินเองในบ้าน หรือทำขายเล็กๆน้อย
ขอยกตัวอย่างเตาที่หนึ่งใช้ ขนาด กว้าง 56 x ลึก 40 x สูง 32.5 ซม. จุ 28 ลิตร ทำอะไรได้บ้าง
– อบเค้ก 1 ปอนด์พร้อมกัน 2 ก้อน
– อบเค้ก 2 ปอนด์ได้ครั้งละ 1 ก้อน
– อบเค้ก 3 ปอนด์ได้ครั้งละ 1 ก้อน
– ใส่ถาด 10*10 นิ้วได้
– อบคุกกี้ 1 สูตร 2 ครั้ง โดยอบแบบ 2 ถาด
สูตรเค้กส่วนใหญ่จะเป็นสูตร 2 ปอนด์ บางสูตรอาจจะ 3 ปอนด์ (ไม่บ่อยนัก) แต่ถ้าทำคุ้กกี้ต้องเหนื่อยและเปลืองไฟกว่าเพราะต้องอบหลายครั้ง ถ้าที่บ้านมีสมาชิกหลายคนหรือคิดว่าจะทำขนมขายขำๆก็ซื้อขนาดใหญ่หน่อย แต่ถ้าอยากขายขนมเป็นล่ำเป็นสันน่าพิจารณาเตาอบแบบแก้สนะคะเพราะจะประหยัดไฟกว่า
3. งบประมาณมากแค่ไหน ตรงไปตรงมาค่ะ ถ้ามีงบเยอะเราก็มีตัวเลือกมากขึ้น หนึ่งไม่ได้หมายความว่าของแพงทุกอย่างจะดีนะคะ แต่ของดีมักจะแพง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคือเมื่อซื้อมาแล้วใช้งานได้คุ้มค่า
5. การติดตั้งและมีพื้นที่ในการจัดวาง ถ้าเป็นเตาแก้สต้องเผื่อพื้นที่ในการวาง ส่วนเตาอบไฟฟ้าต้องดูเรื่องกำลังวัตต์และการเดินไฟด้วย
มาถึงตรงนี้พอจะนึกออกไหมคะว่าจะซื้อเตาอบแบบไหนดี ถ้ายังรู้สึกเหมือนเกือบจะเข้าใจแล้ว แต่ยังมีเมฆบอกบัง ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ สิ่งนี้อาจจะพอช่วยได้ คลิกที่ลิงค์ข้างล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม