เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อไหนดี ในปี 2021
อากาศร้อน ๆ แบบนี้คงไม่มีใครไม่คิดถึงแอร์เย็น ๆ สักตัวเอามาติดตั้งไว้ในบ้าน หรืออย่างน้อยในห้องนอนก็ยังดีเพื่อให้ตอนกลางคืนนั้นหลับได้สนิทและพักผ่อนได้เต็มที่ ยิ่งในยุคที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้นและอุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองไทยสูงขึ้นแล้วล่ะก็ หลายคนยิ่งอยากหาแอร์มาติดไว้ที่บ้านให้เย็นฉ่ำสบายใจ การที่อากาศร้อนมาก ๆ นั้นทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้น และนั่นอาจทำให้เราเกิดอาการป่วยได้ บางคนถึงกับปวดหัวเป็นประจำที่ต้องอยู่ในสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน ๆ ส่งผลเสียต่อการทำงานและการทำกิจกรรมประจำวันไปได้ แต่โชคดีที่ทุกวันนี้เรามีแอร์ (หรือจะเรียกให้หรูก็ “เครื่องปรับอากาศ”) จากหลากหลายแบรนด์มาให้เลือกซื้อ แถมทุกวันนี้แอร์ก็ราคาถูกลงเรื่อย ๆ ทำให้ใคร ๆ ก็ติดแอร์ได้ โดยแอร์มีทั้งแบบ BTU ต่ำ ๆ ไปจนถึง BTU สูง ๆ ตามขนาดพื้นที่ใช้งาน ซึ่งก่อนที่เราจะเลือกซื้อแอร์สักตัว สิ่งหลัก ๆ ที่เราควรพิจารณาก็มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง เราไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรคำนึงถึงก่อนที่จะซื้อแอร์สักตัวมาติดตั้งที่บ้านหรือที่ทำงานของเรา
• None ซึ่งประเภทนี้เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็ก แอร์ประเภทนี้จะประหยัดพลังงานมากและทำความสะอาดง่าย
• None โดยประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีก ข้อดีของแอร์ประเภทนี้ก็คือสามารถกระจายความเย็นได้สูง มีความทนทานในการใช้งาน กระจายความเย็นได้ทั่วถึง
• None ประเภทนี้จะเป็นแอร์แบบที่เคลื่อนย้ายได้ พื้นที่ในการกระจายความเย็นของแอร์ประเภทนี้มีมากกว่าแอร์แบบอื่นจึงทำให้สามารถกระจายความเย็นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก
• None ประเภทนี้เราจะเห็นตามโรงแรมขนาดใหญ่หรือตามสำนักงานที่มีขนาดใหญ่ วัตถุประสงค์ที่ติดตั้งแอร์ประเภทนี้ก็เพื่อความสวยงาม ไม่ต้องมีแอร์เกะกะสายตา รวมถึงการควบคุมคอมเพรสเซอร์ก็ทำได้ง่ายจากจุดเดียว
• ขนาดพื้นที่สำหรับติดตั้งแอร์ เป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาติดตั้งแอร์ ดังนั้นเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับจุดนี้ก็คือ วัดขนาดห้องไปให้ร้านขายแอร์ดูเลยก็ได้ว่าพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ ทางร้านจะแนะนำขนาด หน่วยในการวัดความร้อน) ของแอร์ได้ ที่บอกว่าพื้นที่นั้นสำคัญก็เนื่องจากเจ้าตัว
แอร์ที่มี BTU สูงเกินไปจะทำให้ตัวคอมเพรสเซอร์ของแอร์ตัดบ่อยเพราะแอร์ทำงานได้เร็วกว่าปกติ นั่นทำให้คอมเพรสเซอร์มีอายุการใช้งานน้อยลง นอกจากนี้ การที่แอร์ทำความเย็นเร็วเกินไปนั้นจะทำให้ห้องชื้นด้วย ไม่ควรติดแอร์ BTU สูงเกินไปในบ้านที่มีเด็กหรือคนที่เป็นภูมิแพ้เพราะอาจจะทำให้ปอดชื้นได้ รวมถึง การที่ในแอร์มีความชื้นก็เป็นสาเหตุของการหมักหมมของเชื้อราและเชื้อโรคได้ และที่สำคัญแอร์ที่มี BTU สูงนั้นจะใช้กินไฟมากกว่า
แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไปจะทำให้ห้องเย็นช้า คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักตลอดเวลา นั่นทำให้คอมเพรสเซอร์มีอายุการใช้งานต่ำลง แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไปนั้นก็ทำให้เปลืองพลังงานด้วยเช่นกัน เนื่องจากขนาด BTU ของแอร์ไม่เหมาะกับพื้นที่
จากข้อมูลสำคัญที่กล่าวมาแล้ว ส่วนอื่นที่ควรพิจารณาเมื่อติดตั้งแอร์ก็คือแอร์ที่ติดตั้งควรจะประหยัดพลังงานด้วย ถ้าได้ตราประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ด้วยยิ่งดี ต่อไปเราไปดูกันเลยว่าแอร์ยี่ห้อที่ติดตลาดและคุณภาพเยี่ยมในเมืองไทยมีรุ่นไหนยี่ห้อไหนกันบ้าง
